เข้าชม 958
ระบบบ้านอัจฉริยะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. ระบบรีโมทคอนโทรล ส่วนใหญ่ใช้แสงอินฟาเรด และมักจะควบคุมแบบหนึ่งต่อหนึ่ง หรือคู่ใครคู่มัน ไม่มีศักยภาพเชิงเครือข่าย เหมาะสำหรับห้องเล็ก ๆ หรือครอบครัวเล็ก ๆ
2. ระบบชุมสายหรือเซ็นเตอร์ มีประสิทธิภาพมากกว่าและควบคุมได้แน่นอนกว่า แต่ต้องเดินสายไฟ มีสายไฟ 2 ทาง เส้นหนึ่งจ่ายไฟ อีกเส้นหนึ่งควบคุมระบบ การติดตั้งค่อนข้างยุ่งยากค่าใช้จ่ายสูง เหมาะสำหรับสิ่งก่อสร้างใหญ่ ๆ ไม่เหมาะกับบ้านพักอาศัยทั่วไป
3. ระบบคลื่นพาหะ หรือ แคริเออร์ ระบบนี้อาศัยสายไฟที่มีอยู่ในบ้านเป็นเครือข่าย เป็นระบบที่มีศักยภาพสูงค่าใช้จ่ายต่ำ เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านส่วนใหญ่ใช้ไฟ 220 วัตต์ เมื่อมีแหล่งไฟฟ้าก็มีสัญญาณไฟ จึงติดตั้งระบบควบคุมแบบเครือข่ายได้ นี่เป็นระบบง่าย ๆ สามารถติดตั้งเองได้
ระบบคลื่นพาหะเป็นอย่างไร ?
เมื่อสายไฟส่งกระแสไฟฟ้าไปยังห้องต่าง ๆ มันก็จะเชื่อมโยงหลอดไฟ และ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน เทคโนโลยีคลื่นพาหะก็คือการนำเอาสัญญาณควบคุมแรงดันต่ำส่งไปตามจุดต่าง ๆ ในสายไฟ เพื่อทำให้พลังไฟฟ้าเกิดประโยชน์สูงสุด จุดเด่นของระบบนี้คือไม่ต้องเดินสายไฟใหม่ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่เข้าอยู่อาศัยแล้ว แค่เปลี่ยนสวิตซ์ตัวใหม่แทนตัวเก่า หรือเสียบปลั๊กเพิ่มเข้าไปอีกตัวหนึ่ง ทุกอย่างก็ใช้ได้แล้ว ดังนั้น เมื่อคำนึงถึงการใช้งาน ความเหมาะสม ความประหยัด ความสะดวกรวดเร็วในการติดตั้ง ก็จะเห็นได้ว่าระบบนี้มีศักยภาพสูงมาก อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงาน เป็นระบบที่คุ้มค่าที่สุด นับเป็นการเปิดศักราชใหม่แก่ผู้ใช้ระบบบ้านอัจฉริยะเลยทีเดียว
ระบบปฏิบัติการ X10
เมื่อใช้เครือข่ายสื่อสาร ก็ต้องมีโปรแกรมสื่อสาร มันก็เหมือนกับการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ทที่ต้องติดตั้งโปรแกรม TCP/IP นั่นแหละ ระบบคลื่นพาหะนั้นมีหลายแบบ แบบที่พวกเราใช้อยู่นี้เป็นแบบดั้งเดิมที่เรียกกันว่า โปรแกรม X10 ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้กันทั่วโลก มันจะคลื่นพาหะ 120 กิโลเฮิตซ์ เป็น 60 กิโลเฮิตซ์ และส่งสัญญาณ X10(รหัสที่อยู่กับรหัสปฏิบัติการ) ในรูปของคลื่นออกจากตัวส่งไปยังเครือข่าย จากนั้น ตัวรับในเครือข่ายก็จะได้รับ สัญญาณ X10 และเริ่มปฏิบัติการ ดังนั้น ตัวรับแต่ละตัวจึงต้องตั้งรหัสไว้ล่วงหน้า เพื่อรับคำสั่ง
บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง IBM, Stanly, Leviton, Honeywell ฯลฯ ต่างผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้ โปรแกรม X10 ด้วยกันทั้งนั้น โปรแกรม X10 จึงเป็นโปรแกรม หลักในระบบบ้านอัจฉริยะ ปัจจุบัน บริษัทX10 คือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับบ้านอัจฉริยะ เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ขายไปแล้วกว่าหนึ่งร้อยล้านชุด ประมาณการว่ามีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ X10 กว่า สี่ล้านครัวเรือน หลายปีมานี้ X10 ในทวีปยุโรปก็พัฒนาได้ค่อนข้างรวดเร็วและแพร่หลายมาก และเทคโนโลยีนี้กำลังเริ่มเข้าสู่ทวีปเอเชีย
กว่า 20 ปีแห่งการพัฒนาบ้านอัจฉริยะ X10 เป็นดาวเด่นได้เพราะ
1. เป็นเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ ใช้ในสหรัฐอเมริกามา 25 ปีแล้ว
2. สามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องเดินสายไฟ จึงประหยัดค่าใช้จ่าย และไม่เสียเวลา
3. ประหยัด ราคาถูก ครอบครัวระดับกลางก็ใช้ได้
4. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้โปรแกรม X10 มีมากมายหลายชนิดซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบป้องกันความปลอดภัย ควบคุมด้วยรีโมท คอมพิวเตอร์ และยังรวมไปถึงโทรศัพท์
5. วิธีใช้ง่าย การควบคุมอิสระคล่องตัว
6. ระบบนี้ไม่มีเซ็นเตอร์คอนโทรล โครงสร้างของระบบเหมือนต่อตัวต่อไม้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่
7. อัพเกรดได้เรื่อย ๆ
8. ระบบปฏิบัติการ X10 ไม่ขัดและไม่ส่งผลกระทบกับระบบอื่น ๆ ในการก่อสร้าง
สรุปคือ ระบบ X10 มีอนาคตสดใสมาก คาดว่าภายใน 2 ปีนี้ บ้านที่ใช้ระบบเครือข่าย X10 จะมีมากถึงหนึ่งร้อยล้านครัวเรือน และในปี ค.ศ. 2003 เครือข่ายบ้านอัจฉริยะจะมียอดขายทั้งสิ้น 4,500,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในจำนวนนี้ 3,700,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นมูลค่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสัญญาณเครือข่ายอัจฉริยะ ยอดที่เหลือคือซอฟแวร์และค่าบริการเทคนิค คาดว่าในปี ค.ศ. 2010 ร้อยละ 50 ของบ้านที่ปลูกสร้างใหม่จะติดตั้งระบบอัจฉริยะ
บ้านอัจฉริยะ
บริษัท เครือแอทโฮม จำกัด โดย athomeautomation ได้พัฒนาระบบบ้านอัจฉริยะ ขึ้นบนพื้นฐานของระบบ X10 ที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมทั้งประยุกต์ให้สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริงของชาวเอเชีย ได้ดังนี้
1. สินค้าทันสมัย เป็นของโซนเอเชีย ต่อยอดความคิดเปิดปิดบนฝาผนัง
2. ใช้เทคนิควงจรปิด จึงไม่มีปัญหาสายพันกัน
3. ใช้เทคนิครหัสลับ สัญญาณคอนโทรลจึงไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
ความสามารถของอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะทำอะไรได้บ้าง
1. คุณสมบัติของรีโมท
- เงียบ ไม่มีเสียง แสงรบกวน ควบคุมทั้งหมด
- สามารถควบคุมดวงไฟทุกดวง เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้านได้ เช่น เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องปรับอากาศ
- ส่งสัญญาณผ่านสิ่งกีดขวางได้ เช่น ฝาผนัง ประตู เป็นต้น
- ควบคุมระยะไกลกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ไม่จำกัดจำนวน
- รีโมทตัวเดียวใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวเดียวหรือหลาย ๆ ตัวก็ได้ มีข้อแม้อยู่ว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้น จะต้องมีเครื่องรับคำสั่ง ต้องเชื่อมต่อกับสายไฟ
- ระยะการควบคุม 50 เมตร ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของบ้าน เช่น ในขณะที่คุณกำลังดูที.วี.อยู่ในห้องรับแขก คุณก็สามารถใช้รีโมทเปิดปิดไฟในห้องครัว ดาดไฟ ระเบียง ทางเดิน และห้องอื่น ๆ ได้
- ช่วยถนอมสายตา ไม่ทำให้แสบตา เนื่องจากแสงไฟจะค่อย ๆ สว่างเมื่อเปิด และค่อย ๆ ดับลงเมื่อปิด
- มีหน่วยความจำ จะจดจำค่าความสว่างครั้งสุดท้าย เมื่อมีการเปิดใหม่
- สามารถตั้งค่าการเปิดไฟในรูปแบบบรรยากาศของงานปาร์ตี้, บรรยากาศโรแมนติก เป็นต้น โดยการตั้งไฟ
- เพื่อมิให้สัญญาณพันกัน เราจึงใช้สัญญาณไร้สายที่มีรหัส แต่ละบ้านก็มีรหัสลับของตัวเอง
2. คุณสมบัติของสวิตซ์
- ปุ่มเดียวเปิดหมด หรือเปิดเฉพาะจุดก็ได้ เมื่อมันเชื่อมโยงเข้ากับสายไฟ
- สามารถตั้งค่าการเปิดไฟ เช่นเดียวกับรีโมท
- ปุ่มเดียวปิดหมด ไม่เฉพาะแต่ดวงไฟเท่านั้น ยังรวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เข้ากับระบบก็ปิดได้
- ช่วยถนอมสายตา ไม่ทำให้แสบตา เนื่องจากแสงไฟจะค่อย ๆ สว่างเมื่อเปิด และค่อย ๆ ดับลงเมือปิด
- สามารถปรับ/หรี่แสงไฟไดตามต้องการ
- มีหน่วยความจำ จะจำค่าความสว่างครั้งสุดท้าย เมื่อมีการเปิดใหม่
- หากติดตั้งสวิตซ์เซ็นเซอร์สอินฟาเรด เมื่อมีการเคลื่อนไหวตามจุดที่ติดตั้ง เช่น เมื่อมีคนเคลื่อนไหวอยู่ที่ประตูหลังบ้าน ไฟก็จะสว่างขึ้น และดับลงโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหว
3. คุณสมบัติของมินิคอนโทรลเลอร์
- ควบคุมโดยการเชื่อมต่อกับสายไฟ โดยการเสียบปลั๊กกับเต้าเสียบจุดใดก็ได้ภายในบ้าน
- สามารถควบคุมสวิตซ์ไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
- สามารถเลือกที่จะควบคุม ดวงไฟ จุดใด ห้องใด ให้เปิด/ปิด หรือ ปรับ/หรี่แสงตามต้องการได้
- ช่วยถนอมสายตา ไม่แสบตาเมื่อปิด/เปิดไฟ เช่นเดียวกับสวิตซ์และ รีโมท
- มีระบบการสร้างบรรยากาศ เช่นเดียวกับ สวิตซ์ และรีโมท
4. คุณสมบัติของเครื่องตั้งเวลา
- ตั้งเวลาเปิดปิดได้ เช่น ตั้งเวลาเปิดปิดไฟ ม่านหน้าต่าง ที.วี เครื่องเสียง หรือแม้แต่ตั้งเวลาให้อาหารแก่สัตว์เลี้ยงแสนรัก
- เป็นเครื่องควบคุมแบบเซ็นเตอร์ 8 หลัก เสียบเข้ากับปลั๊กไฟ 220 วัตต์ ก็สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้
- สามารถปรับแสงได้ เป็นนาฬิกาและนาฬิกาปลุกได้
5. คุณสมบัติเครื่องควบคุมเครื่องเสียง
- สามารถได้ยินเสียงเพลง ไม่ว่าคุณจะอยู่ห้องใดในบ้านจากเครื่องเสียงเครื่องเดียวกัน
- สามารถเพิ่ม/ลดเสียงด้วยรีโมท โดยไม่ส่งผลกระทบกับห้องอื่น
- สามารถสั่งปิดเครื่องเสียงในห้องที่คุณอยู่ได้ ในขณะที่ยังมีเสียงเพลงในห้องอื่นดำเนินต่อไป
6. คุณสมบัติของรีโมทเปิด/ปิดม่านไฟฟ้า
รีโมทเปิดปิดม่านหน้าต่างประดิษฐ์ขึ้นเพื่อแก้ปัญหา ให้คุณไม่ต้องไล่รูดม่านปิดที่ละบาน โดยมันจะรวบรวมม่านหน้าต่างทุกบานในบ้านขึ้นเป็นเครือข่าย แล้วควบคุมการเปิดปิดม่านภายในบ้าน คุณจะสั่งปิดทีละบาน หรือเปิดปิดทั้งหมดก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของคุณ ทั้งหมดนี้เพียงแค่คุณกดรีโมท
7. คุณสมบัติของระบบรักษาความปลอดภัย
เป็นระบบที่ใช้เทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบปลอดภัย เชื่อถือได้ ควบคุมได้ทุกรูปแบบทั้งมีสายและไร้สาย สามารถตั้งโปรแกรมและตั้งเวลาได้ตามต้องการ พิเศษด้วยเทคโนโลยีของ X10 และเป็นระบบที่รวบรวมการขอความช่วยเหลือและการแจ้งความไว้ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถแก้วิกฤตทันทีที่เกิดเหตุจากทางโทรศัพท์ หรือโปรแกรมที่ตั้งไว้ล่วงหน้า ควบคุมการใช้งานด้วยรีโมท รูปลักษณ์สวยงาม ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง
8. คุณสมบัติของระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังไฟค่อนข้างมาก จึงไม่ควรที่จะเปิด/ปิดบ่อย ๆ เนื่องจากกินไฟมาก แต่ปัญหาก็คือ การเปิดเครื่องปรับอากาศไม่เหมือนการเปิดไฟที่เปิดแล้วจะสว่างทันที แต่จะต้องเปิดแอร์ไว้ประมาณ 5-10 นาที กว่าที่แอร์จะเย็นได้ที่ จึงได้มีการคิดค้นรีโมทแอร์อัจฉริยะขึ้น ในขณะที่คุณอยู่ในห้องครัว คุณก็สามารถเปิดแอร์ในห้องนอนได้ เช่นเดียวกับการที่คุณลืมปิดแอร์ เมื่อคุณออกจากบ้านไปแล้วคุณก็สามารถโทรศัพท์สั่งระบบควบคุมปิดแอร์ให้คุณได้ อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังมีหน่วยความจำ มันสามารถจำคำสั่งคอนโทรลเครื่องปรับอากาศได้ทุกยี่ห้อ
9. คุณสมบัติของการควบคุมด้วยโทรศัพท์
ควบคุมการทำงานระยะทางไกลได้ด้วยโทรศัพท์ ไม่ต้องเดินสาย ไม่ต้องติดตั้ง เพียงเสียบปลั๊กก็ใช้ได้ สามารถ
สั่งการเปิด/ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นนี้ในขณะที่คุณไม่อยู่บ้าน เช่น สั่งให้เปิด/ปิดเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำร้อน ไฟ ม่านหน้าต่างในบ้านได้ เหมือนมีคนอยู่ในบ้าน
